Roberto Baggio วางมือบนสะโพกโค้งศีรษะและชาวบราซิลฉลองรอบตัวเขา
ถือเป็นฉากที่สะเทือนใจที่สุดฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลหลังจากทั้งสองชาติเสมอกัน 0-0 ที่โรสโบลว์ในสหรัฐอเมริกา มันเป็นจุดแข็งในอาชีพที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเกมนี้ แต่ Baggio ไม่จำเป็นต้องปกปิดรอยแผลเป็นของเขา – เขาลากชาติของเขาไปสู่นัดชิงชนะเลิศ
แม้ว่าโค้ชของเขาจะล้มเหลวในการให้ความเคารพต่อพรสวรรค์ในรุ่นของเขา แต่ความรักของผู้คนที่มีต่อผู้เล่นที่ช่วยให้ความฝันเป็นจริงไม่เคยสะดุดความฝันของเขาเกือบจะจบลงก่อนที่พวกเขาจะเริ่มต้นการบาดเจ็บที่หัวเข่าครั้งแรกหลายครั้งเกิดขึ้นเมื่ออายุเพียง 18 ปีในขณะที่เขาใกล้จะเซ็นสัญญากับฟิออเรนติน่าจากวิเชนซา
La Viola มีความเชื่อและเซ็นสัญญากับเขาแม้ว่าแพทย์บางคนจะกลัวว่ามันจะคุกคามอาชีพก็ตามแต่การบาดเจ็บตามมาด้วยอีกครั้งในปี 1986/87 ทำให้ความหวังใด ๆ ที่จะส่งผลกระทบในฟลอเรนซ์ลดลงอย่างไรก็ตามเมื่อ Baggio ไปได้เขาก็ตอบแทนศรัทธานั้นอย่างงดงามช่วยพวกเขาจากการตกชั้นด้วยการยิงฟรีคิกกับแชมป์นาโปลีในปี 1987
ในตอนท้ายของแคมเปญ 1988/89 เขาเป็นซูเปอร์สตาร์และในขณะที่หลายคนตื่นตากับการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วในการโจมตีเขาก็มีสัญชาตญาณของกองหน้าเหมือนกันเขาทำประตูได้ 15 ครั้งในฤดูกาลนั้นทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับสี่ตามหลัง Aldo Serena, Marco van Basten และ Careca ซึ่งเป็น บริษัท ที่ดี
แต่เขายังคงมีปัญหากับอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ภายหลังอ้างว่าเขาแทบจะไม่ได้เล่นฟุตบอลอีกเลยหากเขาถูกนำตัวไปที่สนามเมื่อปราศจากความเจ็บปวดเท่านั้นถึงกระนั้นแคมเปญดังกล่าวอดีตอาร์เจนติน่าและฟิออเรนติน่าเอซมิเกลมอนตูโอรียืนยันว่าเขา“ มีประสิทธิผลมากกว่ามาราโดนา เขาคือเบอร์ 10 ที่ดีที่สุดในลีกอย่างไม่ต้องสงสัย”
เขาแบ่งปันสนามกับมาราโดน่าซึ่งเป็นผู้เล่นที่เขาถูกเปรียบเทียบหลายต่อหลายครั้งด้วยความสามารถของเขากับฟุตบอลเห็นได้ชัดว่าทักษะของเขาดึงดูดความสนใจและยูเวนตุสเป็นผู้ที่จะเซ็นสัญญากับเขาทำให้เกิดการจลาจลในฟลอเรนซ์หลายวันเพื่อประท้วงข้อตกลงนี้ด้วยมูลค่า 8 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติโลกซึ่งสืบทอดเสื้อหมายเลข 10 อันโด่งดังของ Michel Platini
ในนัดต่อไประหว่างทั้งสองสโมสรแม้จะเป็นผู้กำหนดจุดโทษ แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะก้าวขึ้นยืนโดยยืนยันว่า Gianmatteo Mareggini ผู้รักษาประตูรู้จักเขาดีLuigi De Agostini ตัวสำรองพลาดการเตะจุดและเมื่อ Baggio ถูกเปลี่ยนตัวออกในภายหลังเขาก็ออกจากสนามที่สนามกีฬา Artemio Franchi ของฟิออเรนติน่าโดยถือผ้าพันคอของฝั่งเดิมของเขาซึ่งถูกโยนทิ้งจากฝูง
มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่ฉลาดที่สุดของเขา แต่เขายังคงยึดมั่นกับตัวเองในเกมที่เปลี่ยนแปลงและเขาจะทำเช่นนั้นตลอดอาชีพการงานของเขา การแสดงของเขาจะชนะผู้ที่ตัดสินใจไม่ได้ดีกับ Juve เขาได้รับรางวัลยูฟ่าคัพและแชมป์เซเรียอาในขณะที่แต่ละรายการเขาจะชนะบัลลงดอร์ในปี 1993 และจบอันดับที่สองในอีกหนึ่งปีต่อมาแม้ว่าจะพลาดจุดโทษในฟุตบอลโลกก็ตาม
Baggio ได้รับ Ballon d’Or โดย Michel Platini ตำนานของ Juventusมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Baggio ทั้งหมด อาการบาดเจ็บที่หัวเข่ายังคงสร้างความเสียหายให้กับเขาในขณะที่ลีกอิตาลีเปลี่ยนไปโดยมีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้นและโครงสร้างทางยุทธวิธีที่แตกต่างกันทำให้เขามีอิสระในการเล่นแบบสร้างสรรค์ No.10 ที่ จำกัด
เช่นเดียวกับ Lionel Messi ในวันนี้ Baggio ไม่ได้เห็นบ่อยนักที่ต้องทำงานหนักในการตั้งรับแม้ว่าเขาจะทำประตูหรือสร้างแต้มได้บ่อยครั้งซึ่งทำให้เขามีเวลาว่างมากขึ้นผู้จัดการของเขาหลายคนพยายามหากลยุทธ์ที่ช่วยเสริมลำดับของวันและผู้เล่นที่มีตำนานเช่น Arrigo Sacchi, Marcello Lippi, Fabio Capello, Giovanni Trapattoni และ Renzo Ulivieri ต่างก็พบว่ามันยาก
Baggio เองพบว่ามันยากที่จะเข้าใจปัญหานี้โดยกล่าวในปี 2011 ว่า“ ฉันมักจะสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่พิจารณาฉันจริงๆ แต่ฉันไม่เคยพบคำตอบที่แท้จริง บางทีพวกเขาอาจจะอิจฉานิดหน่อยเพราะทุกคนเคยรักฉันแม้กระทั่งแฟนที่เป็นปฏิปักษ์ ฉันขโมยการแสดงโดยปฏิเสธบทบาทของตัวละครเอกที่พวกเขาอ้างว่าเป็นของตัวเองอย่างสิ้นหวังหรือไม่? ”
Baggio รุ่นไลท์เวทยูเวนตุส แต่สุดท้ายก็ถูกบังคับให้ออกจากสโมสร
ลิปปี้จะบังคับให้เขาออกจากยูเวนตุสส่วนหนึ่งต้องขอบคุณการมาถึงของอเลสซานโดรเดลปิเอโร่ในที่เกิดเหตุและแม้จะมีการประท้วงของแฟนบอลมากขึ้นเขาก็ย้ายไปเอซีมิลานซึ่งแม้ว่าเขาจะมีอาการบาดเจ็บมากกว่า แต่เขาก็จะมีส่วนร่วมในเซเรียอาอีกครั้ง ชนะในปี 1995/96 แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นจี้
หลายคนไม่เข้าใจบทบาทพาร์ทไทม์ของเขา แม้แต่ซีเนอดีนซีดานก็พบว่ามันยากที่จะเข้าใจโดยพูดว่า:“ แบกจิโอบนม้านั่งเหรอ? เป็นสิ่งที่ฉันไม่มีวันเข้าใจในชีวิตของฉัน”ในฤดูกาลที่สองของเขาที่ซานซีโรกับมิลานเจ้านายคนใหม่ออสการ์ทาบาเรซจะไม่ให้เขาออกสตาร์ทเป็นประจำและกล่าวว่า:“ ไม่มีที่สำหรับกวีในฟุตบอลสมัยใหม่”
เขาจะจากไปในปี 1997 และเกือบจะลงเอยในพรีเมียร์ลีกกับสโมสรที่ไม่น่าเป็นไปได้Baggio เล่นเคียงข้างกับ George Weah ที่ AC Milan“ ในวงการฟุตบอลชื่อใหญ่ไม่ได้ใหญ่โตไปกว่าเจ้าหมอนี้มากนัก” จิมสมิ ธ หัวหน้าทีมของดาร์บี้เคาน์ตี้กล่าวในเวลานั้น
“ การลงจอด Roberto Baggio จะนำไปสู่การระเบิดของความสนใจ – และตอนนี้เรามีโอกาส 50-50 ที่จะแกว่งข้อตกลง“ คำถามหลักยังคงอยู่ที่ว่าโรแบร์โตต้องการลิ้มลองประสบการณ์ภาษาอังกฤษอย่างแท้จริงหรือไม่“ เราอยู่ในโอกาสที่จะชักชวนให้ Baggio มาร่วมงานกับเรา
“ โอกาสที่จะมีมากแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของเราในระหว่างการพูดคุยกับ Roberto และที่ปรึกษาของเขา”Baggio การเป็นเพื่อนกับ Stefano Eranio การเซ็นสัญญาครั้งใหม่ของ Rams จะช่วยได้ แต่ในขณะที่ Antonio Calaendo ตัวแทนของเขายอมรับว่าผู้เล่นรู้ว่า“ ประเพณีที่ดีของ Derby แล
สนามใหม่ที่น่าตื่นเต้นของพวกเขา” เขาทำข้อตกลงไม่สำเร็จเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแบ็กจิโอทำให้จุดโทษบราซิลปวดใจอยู่ข้างหลังเขาด้วยการยิงจุดเตะกับชิลีในทัวร์นาเมนต์ปี 1998ตอนแรกเขาจะไปร่วมงานกับปาร์ม่า แต่จากนั้นคาร์โลอันเชล็อตติหัวหน้าใหญ่ต้องการให้เขาเป็นกองหน้าทำให้เขาไปที่อื่น
อันเชล็อตติไม่เคยให้อภัยตัวเอง:“ ฉันบอกว่า ‘ไม่นายต้องเล่นกองหน้า’ แบ็กโจไปสโมสรอื่น ปีนั้นแบ็กจิโอยิง [22] ประตู – ให้โบโลญญ่า! ฉันเสีย 25 ประตู! ความผิดพลาดครั้งใหญ่.”ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของเขานำไปสู่อินเตอร์มิลานที่โฉบลงมาในปี 1998 แต่มันเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคยกลับมาที่ซานซีโรถูกปัดออกจากตำแหน่งปีกในบางโอกาสที่เขาเล่นได้ยากโดยเริ่มต้นเพียง 24 ครั้งในสองแคมเปญ
แต่ถึงแม้เขาจะมีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลิปปี้ แต่เจ้านายของเขาก็กลับมาอีกครั้งหลังจากออกเดินทางไปที่ซานซิโรหลายครั้งเขาก็เข้ามาในการแข่งขันรอบเพลย์ออฟที่สำคัญสำหรับคุณสมบัติแชมเปี้ยนส์ลีกกับปาร์ม่าโดยทำประตูได้สองครั้งและช่วยงานผู้จัดการของเขาในขณะที่พวกเขาเอาชนะคู่ต่อสู้ของพวกเขา 3-1.
ความรักของเขาที่มีต่อเกมและแฟน ๆ มาก่อนเสมอRonaldo ทักทาย Baggio ในช่วงที่เขาอยู่ที่โบโลญญาแม้ว่าจะมีรายงานว่าได้รับความสนใจจากบาร์เซโลนา แต่ Baggio ก็ลงเอยด้วย Brescia ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งในปี 2000 หลังจากสองฤดูกาลที่ไร้โชกับอินเตอร์ตอนอายุ 33 ปีเขาตั้งเป้าไปที่ฟุตบอลโลก 2002 โดยเล่นให้กับทีมที่คิดว่ากำลังเผชิญหน้ากับการตกชั้น
เขาพาพวกเขาไปสู่จุดจบที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งเซเรียอาอีกครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่สองในขณะที่พวกเขาจบฤดูกาลในอันดับที่แปดด้วยอันดับที่ 10 คะแนน 10 และทำเก้าแอสซิสต์ขณะที่ฟอร์มของเขาทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงบัลลงด ‘หรือ.
ความฝันในอิตาลีของเขาจะล้มเหลวเมื่อ Del Piero และ Francesco Totti เป็นที่ต้องการและ Azzurri ถูกทำให้พ่ายแพ้ในรอบ 16 ทีมโดยเกาหลีใต้ซีดานรักบักโจและไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโค้ชบางคนไม่ได้เล่นงานเขายุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของเขายังคงดำเนินต่อไปกับเบรสชาแม้จะได้รับบาดเจ็บที่เข่าอีกครั้งและในสี่แคมเปญเขายิงได้ 46 ประตูในเซเรียอาจากการแข่งขันเพียง 95 นัดและสร้างอีก 32 ประตู
เขาพบสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเขาได้รับการชื่นชมและแม้จะมีแขนขาที่บอบบางของเขาเขาก็อยู่มาจนถึงอายุ 37 ปีCarlo Mazzone จัดการเขาในสามฤดูกาลแรกมอบปลอกแขนกัปตันทีมและเสื้อหมายเลข 10 และบทบาทให้เขา
เขาแสดงความคิดเห็นในเวลาต่อมาว่า“ โรแบร์โตแบ็กจิโอเป็นนักจินตนาการที่ดีที่สุดของอิตาลี เขาเก่งกว่า [Giuseppe] Meazza และ [Giampiero] Boniperti และเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลรองจาก Maradona, Peléและอาจจะเป็น [Johan] Cruyff หากไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บและปัญหาหัวเข่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์”
การเล่าเรื่องอาชีพของเขามีทั้งเสียงสูงและเสียงต่ำไม่น่าแปลกใจที่ภาพยนตร์เกี่ยวกับอาชีพของเขาจะได้รับการเผยแพร่บน Netflix ในช่วงท้ายอาชีพของเขากับเบรสชาเส้นทางของ Baggio ได้ข้ามกับ Andrea Pirlo เป็นเวลาหนึ่งฤดูกาลจากความสำเร็จของเขาเอง Baggio กล่าวว่า“ สิ่งที่สวยงามที่สุดในอาชีพการงานของฉันคือความรู้สึกที่ผู้คนมีต่อฉัน”และผู้คนจะไม่มีวันลืมว่า Divine Ponytail อวยพรพวกเขาอย่างไร
อ่านข่าวอื่นๆได้ที่ >>>https://www.ufabetwins.com/
หน้าแรก>>>บ้านผลบอล