UFABETWINS “ที่ฉันกลัวน่ะคือพวกรัสเซีย” เอลิซาเบธ ฮาร์มอน ตัวละครจากลิมิเต็ดซีรี่ส์ที่มียอดผู้ชมมากที่สุดแห่งค่าย Netflix เรื่อง The Queen’s Gambit ที่รับบทโดยนักแสดงสาว อันยา เทย์เลอร์-จอย
ถึงกับพูดประโยคนี้ออกมาด้วยความครั่นคร้าม ทั้งๆที่บุคลิกของเธอที่ผู้ชมเห็นมาโดยตลอดคือเด็กสาวอัจฉริยะด้านหมากรุก มั่นใจในฝีมือของตัวเองระดับหนึ่ง ไม่เกรงกลัวใคร เรียกได้ว่าถ้าเป็นเรื่องศาสตร์การต่อสู้บนกระดาน เธอคือสาวมั่นคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดถึงการที่จะต้องเผชิญหน้ากับนักหมากรุกระดับท็อปชาวรัสเซีย ความมั่นใจที่เคยมีก็พลันหายไปหมดสิ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นนักหมากรุกอัจฉริยะจากมุมไหนของโลก เอาชนะคู่ต่อสู้มาแล้วกี่คน
แต่ถ้านำไปเทียบกับนักหมากรุกชาวรัสเซียก็ยังดูห่างชั้นกันอยู่ดี ทำไมรัสเซียถึงเป็นเจ้าแห่งหมากรุกโลกอย่างที่ไม่มีประเทศไหนสามารถทัดเทียมได้? ผู้ครองทำเนียบ ถึงแม้ว่านักหมากรุกอันดับ 1 แห่งยุคนี้ ผู้ครองตำแหน่งแชมป์โลกมาตั้งแต่ปี 2013 อย่าง แม็กนัส คาร์ลเซ่น จะเป็นชาวนอร์เวย์ และนักหมากรุกชาวรัสเซียที่มี FIDE Rating (คะแนนที่ใช้ในการจัดอันดับมือวางของโลก) สูงที่สุดอย่าง เอียน เนปอมนิอัชต์ชี จะอยู่เพียงอันดับที่ 4 ของโลก
แต่ถ้ากวาดสายตามองใน 100 อันดับผู้มี FIDE Rating สูงที่สุดในปัจจุบัน ผู้เล่นรัสเซียก็ยังครองพื้นที่ในตารางมากที่สุดอยู่ดีด้วยจำนวน 23 คน ทิ้งห่างสหรัฐอเมริกาที่จำนวน 11 คนมากกว่าเท่าตัว นอกจากนั้น ทุกครั้งที่มีการจัดอันดับ “นักหมากรุกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล” ก็จะมีเพียง แม็กนัส คาร์ลเซ่น แชมป์โลกคนปัจจุบันชาวนอร์เวย์, บ็อบบี้ ฟิชเชอร์ อดีตแชมป์โลกชาวอเมริกัน และ วิศวนาถัน อนันท์ ตำนานนักหมากรุกชาวอินเดียเท่านั้น
ที่สามารถเบียดเข้ามาอยู่ในลิสต์ ส่วนอันดับที่เหลือล้วนแต่เป็นนักหมากรุกรัสเซียหรือสหภาพโซเวียตทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าแชมป์โลกหมากรุกชาวรัสเซียคนแรกอย่าง มิคาอิล บอทวินนิค จะคว้าตำแหน่งมาได้ในปี 1948 โดยก่อนหน้านั้นการชิงตำแหน่งแชมป์โลกมีมาตั้งแต่ปี 1834 (อย่างไม่เป็นทางการ การแข่งขันชิงแชมป์โลกอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในปี 1886) และผู้เล่นจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส และ ปรัสเซีย (เยอรมันในปัจจุบัน)
จะคว้ามงกุฏราชาไปครองได้เป็นล่ำเป็นสันก็ตาม แต่หลังจากที่คว้าแชมป์ครั้งแรกได้สำเร็จ ผู้เล่นจากรัสเซียก็ครองบัลลังก์ดังกล่าวได้อย่างยาวนาน เรียกได้ว่านับตั้งแต่ปี 1948 จนถึงปี 1999 รวมระยะเวลากว่า 51 ปี ตำแหน่งแชมป์โลกแทบไม่มีการเปลี่ยนสัญชาติเลย มีเพียงครั้งเดียวในปี 1972 เท่านั้นที่ บ็อบบี้ ฟิชเชอร์ นักหมากรุกชาวอเมริกันสามารถชิงบัลลังก์มาได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัสเซียหรือสหภาพโซเวียตได้สร้างนักหมากรุกระดับตำนานขึ้นมามากมาย
เช่น มิคาอิล บอทวินนิค, ติกราน เพโตรเชียน, บอริส สปัสกี้, แกรรี่ กาสปารอฟ และจวบจนปัจจุบันรายชื่อเหล่านี้ก็ยังคงถูกหยิบนำมาพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งในแง่สดุดีความยิ่งใหญ่ หรือเพื่อศึกษากลยุทธ์การเล่นจากพวกเขา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ารัสเซียคือราชาแห่งโลกหมากรุกตัวจริง คำถามคืออะไรทำให้พวกเขาก้าวไปถึงจุดสูงสุดนี้ได้? กีฬาโปรดของเลนินและสตาลิน ถ้าเทียบกับสหรัฐอเมริกา คู่แข่งตลอดกาลในทุกด้านแล้วล่ะก็
ต้องบอกว่ากีฬาหมากรุกเข้าสู่แผ่นดินรัสเซียเร็วกว่ามาก เพราะในขณะที่ชาวอเมริกันรู้จักหมากรุกครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 18 แต่รัสเซียเริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้กันตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 โดยได้รับอิทธิพลมาจากเส้นทางการค้ากับเปอร์เซียและอินเดีย หลังจากนั้น กีฬาหมากรุกก็ค่อยๆผนวกเข้ากับวัฒนธรรมรัสเซียอย่างแนบสนิทขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูง มีบันทึกว่าในปี 1584 พระเจ้าซาร์ อีวาน ที่ 4 ถึงขั้นเสียชีวิตคากระดานหมากรุกเลยทีเดียว
“หมากรุกมีความหมายสำคัญอย่างยิ่งในแง่มุมทางวัฒนธรรมของชาวรัสเซีย” เจมส์ โรเจอร์ นักข่าวจาก BBC ที่ประจำอยู่ในรัสเซียให้ความเห็น เมื่อก้าวเข้าสู่โลกสมัยใหม่ หมากรุกในประเทศรัสเซียก็ยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยหลังจากที่กลุ่มบอลเชวิค ที่นำโดย วลาดีเมียร์ เลนิน เข้ายึดครองประเทศในปี 1917 หมากรุกก็กลายเป็น “งานอดิเรกของชาติ” ไปโดยทันที ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้นก็เพราะตัวของ เลนิน เอง รวมไปถึง โจเซฟ สตาลิน
ผู้สืบทอดอำนาจต่อจาก เลนิน มีความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก โดยพวกเขาเชื่อว่าผู้นำที่ดีจำเป็นต้องเป็นเลิศด้านเกมหมากรุก เพราะหมากรุกก็ไม่ต่างอะไรจากการบริหารปกครองผู้คน หรือทำสงคราม เพียงแต่ย่อส่วนลงมาเป็นเกมบนกระดานเท่านั้น “ในขณะที่คนรอบตัวของเขาชอบเล่นบิลเลียด แต่ เลนิน กลับสนใจแต่เกมหมากรุก เพราะเขาบอกว่ามันคือเกมสำหรับผู้นำ” วลาดิเมียร์ มายาคอฟสกี หนึ่งในผู้ติดตาม เลนิน กล่าว อีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความจริงจัง
ในเกมหมากรุกของ 2 ผู้นำอย่าง เลนิน และ สตาลิน คือการที่ครั้งหนึ่งที่ เลนิน พ่ายแพ้ต่อ เลออน ทรอสกี้ นักการเมืองสหภาพโซเวียต เขาถึงกับโมโหกระฟัดเฟียด เพราะรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้ามากๆ ส่วน สตาลิน นั้นก็ถึงขั้นให้ผู้ติดตามทำบันทึกการแข่งขันปลอมออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชนในเกมที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ นอกจาก เลนิน กับ สตาลิน แล้ว แม้แต่ผู้นำคนปัจจุบันของรัสเซียอย่าง วลาดีเมียร์ ปูติน ก็คลั่งไคล้เกมหมากรุกไม่แพ้กัน
“หมากรุกคือเกมที่ทำให้มนุษย์ฉลาดและมองเห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจนขึ้น” คือคำกล่าวของ ปูติน เมื่อผู้นำชื่นชอบ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาอยากจะเผยแพร่สิ่งนี้ให้กับประชาชนของพวกเขาด้วย โดยในปี 1920 รัฐบาลสหภาพโซเวียตได้มีการเปิดโรงเรียนหมากรุกระดับชาติขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ก่อนที่ในปีต่อมาจะมีการจัดแข่งขันชิงแชมป์ประเทศขึ้นเป็นครั้งแรก ในขณะที่ประเทศอื่นๆ หมากรุกยังเป็นเพียงงานอดิเรก แต่ภายใต้การปกครองของ เลนิน และ สตาลิน
ทางรัฐบาลสหภาพโซเวียตให้การสนับสนุนกีฬาหมากรุกอย่างจริงจังในทุกแง่มุม เช่น การที่นักกีฬาหมากรุกจะได้รับเงินสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถเล่นหมากรุกได้ตลอดเวลา ไม่ต้องประกอบอาชีพอื่นควบคู่ไปด้วย และมีการบรรจุวิชาหมากรุกลงในหลักสูตรการศึกษาของนักเรียนทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้ในปี 1934 ทั่วทั้งสหภาพโซเวียตจึงมีผู้ขึ้นทะเบียนเป็นนักหมากรุกมากกว่า 500,000 คน “เกมหมากรุกเป็นที่นิยมมากในรัสเซีย ช่วงที่ผมอยู่ในมอสโก
ผมแทบจะไม่รู้จักใครที่เล่นหมากรุกไม่เป็น และไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของเมืองก็จะเห็นคนนั่งเล่นหมากรุกกันอยู่ทุกที่” เลียม ค็อกซ์ นักเขียนชาวอังกฤษที่เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในรัสเซียช่วงหนึ่งกล่าว อีกหนึ่งเหตุผลที่หมากรุกได้รับความนิยมในรัสเซียคือเรื่องของสภาพอากาศ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าอากาศหนาวจัดคือสิ่งที่ชาวรัสเซียต้องเผชิญกันเป็นปกติ ในแต่ละปีจะมีเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นที่อากาศอบอุ่นพอจะมาทำกิจกรรมข้างนอกบ้านได้ ดังนั้น กระดานหมากรุก
จึงเป็น “ความบันเทิงราคาถูก” ที่ไม่ว่าใครๆก็สามารถหาซื้อไปนั่งเล่นฆ่าเวลาในบ้านได้โดยไม่ต้องออกมาเผชิญอากาศหนาวด้านนอก จากที่กล่าวมาคงพอตอบคำถามได้ว่า ทำไมหมากรุกจึงได้รับความนิยมในประเทศรัสเซีย แต่คำถามที่ว่า ทำไมพวกเขาต้องจริงจังขนาดนั้น? คงต้องหาคำตอบในย่อหน้าต่อไป ตัวแทนแห่งสงครามเย็น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า “ยุคทอง” แห่งหมากรุกรัสเซีย ที่พวกเขา (เกือบ) คว้าแชมป์โลกได้ต่อเนื่องยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษนั้น
คือปี 1948-1999 ซึ่งเป็นยุคสมัยแห่งสงครามเย็น รัสเซียในนามสหภาพโซเวียตมองหมากรุกมากกว่าการเป็นเกม เพราะสำหรับพวกเขาหมากรุกคือเกมแห่งปัญญาที่ใช้แสดงอำนาจความยิ่งใหญ่ของประเทศ และที่สำคัญพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญเกมชนิดนี้ที่สุด ดังนั้น เหล่านักหมากรุกรัสเซียจึงจำเป็นต้องจริงจังในเกมที่เล่นเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเกิดแพ้ ไม่ใช่คือตัวเขาคนเดียว แต่หมายถึงเกียรติศยศแห่งรัสเซียจะต้องเสื่อมเสียไปด้วย
คลิ๊กเลย >>> UFABETWINS
อ่านข่าวเพิ่ม >>> บ้านผลบอล